วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

 รองเท้าของ "แชค" ที่ก็อป AIR JORDAN มาทั้งอัน แต่ว่าขายได้มากกว่าร้อยล้านคู่ part 3

ขายดีเป็นเทน้ำเทท่า

ถึงจะเป็นรองเท้าเกรดจีนคอมมิวนิสต์ แม้กระนั้นรองเท้า Dunkman ของ แชคีล โอนีล กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า นับจากปี 2004 เป็นต้นมา รองเท้าแบรนด์นี้ขายไปแล้วขั้นต่ำ 150 ล้านคู่ ใช่แล้ว คุณอ่านจำนวนไม่ผิด 150,000,000 คู่

เหตุผลที่รองเท้า Dunkman ขายดิบขายดี แม้ว่าจะก็อปรองเท้ามีชื่อมาทั้งชิ้น เนื่องจากว่าถึงจะเป็นของเอาอย่าง แม้กระนั้นรองเท้า Dunkman ได้รับการยินยอมรับว่า มีความคล้ายคลึงในระดับหนึ่ง และก็แม้ไม่ใช่ผู้ที่ติดตามบาสเกตบอลเอาจริงเอาจัง หรือดูรองเท้าเพียงแค่ผ่านๆคงจะมองไม่ออกหรอกว่า รองเท้าเหล่านี้เป็นของก็อป หรือลอกมาจากรองเท้ารุ่นอื่น

นอกจากนั้น รองเท้า Dunkman เป็นที่นิยมมากมาย ในกลุ่มเด็กๆเพราะเหตุว่าไม่ใช่บิดามารดาทุกคน ที่จะมีเงินจ่ายรองเท้าราคาระดับร้อยดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ให้ลูกของตนเองใส่ไปสถานศึกษา ทั้งยังตามความจริง กีฬาบาสเกตบอลในสหรัฐอเมริกา เป็นที่นิยมมากมายในฝูงคนที่ไม่ค่อยมีกำลังซื้อ หรือมีฐานะมิได้มีเงินมีทอง

Dunkman ก็เลยเปลี่ยนเป็นสิ่งที่ตอบปัญหาสำหรับคุณพ่อและก็รวมทั้งคุณแม่ ที่จะซื้อรองเท้าให้ลูกน้อยได้ใส่หรูไปสถานศึกษา ในราคาประหยัด โดยที่พวกเขายังไม่อยู่ในวัยจะมาเทียบกันว่า คนไหนกันใส่ของแพง คนไหนใส่ของถูก

ทั้งยังรองเท้า Dunkman ยังสามารถหาซื้อได้ง่ายอย่างยิ่ง กับการวางจำหน่ายตามร้านค้ารองเท้าทั่วๆไป รวมทั้งซูเปอร์มาร์เก็ตอย่าง Kmart หรือ Wal-Mart ที่เปรียบเหมือนกับ 7-Eleven ของบ้านพวกเรา ซึ่งช่วยทำให้รองเท้าของ แชค สามารถเข้าถึงคนได้ทุกกรุ๊ปจริงๆดังที่เขาอยาก

ถึงจะขายได้เยอะแยะ แต่ว่ารองเท้า Dunkman มิได้ทำรายได้มากเท่าไรนักให้กับ แชค โดยสร้างรายได้ให้นักบาสเกตบอลร่างยักษ์โดยประมาณ 6 ล้านดอลลาร์สหรัฐอเมริกา ต่อปีแค่นั้น แต่ เรื่องรายได้ไม่เคยเป็นเหตุผลสำหรับเพื่อการซ่อมรองเท้าแบรนด์นี้ สำหรับเขาแม้แต่น้อย ด้วยเหตุว่าที่เขายังซ่อมรองเท้าสายก็อปออกมาขายเรื่อยคือเรื่องของอุดมการณ์ล้วนๆ

"รองเท้า Dunkman ทำให้ผมยังเป็นคนติดดินอยู่จนถึงทุกวันนี้ ... ไม่มีนักบาสเกตบอลใครกันแน่ ต้องการซ่อมรองเท้า เจาะตลาดคนชนชั้นแรงงาน แม้กระนั้นคุณจะต้องรู้เรื่องเรื่องจริงว่า โลกของพวกเรามีคนด้านล่าง มากยิ่งกว่าคนผู้ดี นี่เป็นโลกที่เป็นอยู่" แชคกล่าว

ถึงจะถูกมองดูเป็นรองเท้าคัดลอก แต่ว่ารองเท้า Dunkman เป็นภาพที่บอกให้เห็นถึงความแตกต่างในสังคมตอนนี้ ว่ารองเท้าของแบรนด์ชั้นแนวหน้าราคาแพงที่สูงมากมาย เกินกว่าที่ทุกคนจะสามารถเข้าถึง และก็มีสิทธิ์ถือครองได้อย่างเสมอภาค

ถ้าเกิดวันหนึ่ง แบรนด์รองเท้ามีชื่อเสียง เลือกที่จะลด ไม่ขายของแพงเกินควรจากการสร้างรองเท้า หรือผู้คนในสังคมได้รับการผลักดันด้านรายได้ มีค่าแรงที่ใกล้เคียงกัน ลดความแตกต่างในสังคม คงจะไม่มีลูกค้ามาซื้อรองเท้าของก็อปแบบ Dunkman อีกต่อไป เพราะว่าทุกคนสามารถเป็นเจ้าของรองเท้า ที่มีแบรนด์เป็น ไนกี้, อาดิดาส หรือ จอร์แดน ได้แบบสบายๆ

โชคร้ายที่โลกไม่ได้เป็นอย่างนั้น รวมทั้งนี่เป็นเหตุผลที่แชคยังจำเป็นต้องขายรองเท้า Dunkman ถัดไป เพื่อเป็นโอกาส ให้กับฝูงชนที่ไม่มีหนทาง รวมทั้งต้องการมีรองเท้าบาสที่มีนักกีฬาระดับนานาชาติยืนยัน. เทหน้าตัก

วันอังคารที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564


 ปิดแนวคิดธุรกิจของ "มอนชี" พ่อมดที่ฟื้นคืนชีพให้ "เซบียา" เป็นมหาอำนาจยุโรป part 3

รู้จักตนเอง

หากว่า เซบียา จะเป็นกลุ่มที่มีอัตราการเทิร์นโอเวอร์ของนักฟุตบอลสูง ที่ทำให้พวกเขาจำต้องเสียนักฟุตบอลระดับสตาร์ให้กับกลุ่มยักษ์ใหญ่ดูเหมือนจะทุกปี แม้กระนั้นผลงานในสนามกับตรงกันข้าม เมื่อพวกเขาสามารถคว้าชัยชนะมาประดับประดาตู้โชว์สมาคมได้อย่างสม่ำเสมอ

นับจากที่ มอนชี เข้ามาเป็นผู้อำนวยการกีฬา เซบียา ปัดกวาดแชมป์มาครอบครองได้ถึง 10 ใบ โดยแบ่งเป็น ยูโรปา ลีก 6 ยุค ซึ่งเยอะที่สุดในประวัติศาสตร์, โกขว้าง เดล เรย์ อีก 2 ยุค แล้วก็ ซูเปอร์ วัวขว้าง เด เอสปันญา และก็ ยูฟ่า ซูเปอร์ คัพ อีก 1 ยุค ตลอดจนเข้าชิงบอลถ้วยไปถึง 19 ครั้งในรอบ 20 ปี

และก็เทคนิคที่ทำให้ เซบียา รักษามาตรฐานตนเอง แม้ว่าจะเสียดาวดังไปก็คือ การสามารถหานักฟุตบอลประสิทธิภาพใกล้เคียง แต่ว่าราคาประหยัดกว่า มาชดเชยได้เสมอ ซึ่งมีต้นเหตุมาจากการวางรากฐานโครงข่ายแมวมอง

มอนชี รู้ว่า เซบียา อยู่ที่ไหนของห่วงโซ่ของกิน เขาพร้อมที่จะขายนักฟุตบอลตัวเก่งของกลุ่มออกไป ถ้าหากได้ราคาดี และไม่รู้สึกเสียดาย เนื่องจากว่ามันเป็นการ "ขายเพื่อเติบโต" เพื่อนำผลกำไรมาลงทุนถัดไป ซึ่งเป็นปรัชญาที่เขายึดมั่นมาตลอด

"มันมิได้เป็นความชอกช้ำระกำใจอีกแล้ว" มอนชี รับรองกับ The Guardian

"อัลบาโร เนเกรโด ย้ายออกไป รวมทั้งคุณรู้สึกว่ามันวาระสุดท้าย แม้กระนั้น (คาร์ลอส) บัคคา ก็มาถึง จากนั้นเขาไป แล้วก็ (เกแว็ง) กาเมโร ก็มาพิสูจน์ตนเองได้"

แต่ว่าสิ่งจำเป็นที่สุดเป็นจำต้องรู้จักตลาด แล้วก็อยู่กับเรื่องจริง เซบียา ไม่ใช่กลุ่มจอมทุ่ม แม้นักฟุตบอลพึงพอใจมีค่าตัวแพงเหลือเกินกว่าที่ควรเป็น พวกเขาจะยอมแพ้ และก็มองหาตัวเลือกสำรองเสมอ

ดังเช่นว่าในปี 2007 พวกเขากำลังพึงพอใจ เควิน พรินซ์ บัวเต็ง ที่ทำผลงานเจริญกับ แฮร์ธา เบอร์ลิน แต่ว่าก็สู้ ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ ที่มอบเงินมากยิ่งกว่าไม่ไหว พวกเขาก็เลยเปลี่ยนเป้าหมายไปคว้าตัว เซย์มอง เกย์ตา ที่ในขณะนั้นอยู่กับ ทดลองส์ ด้วยค่าตอบแทน 4 ล้านยูโร ก่อนที่จะขายต่อให้ บาร์เซโลนา พร้อมผลกำไร 10 ล้านยูโร

"ผู้ขายรถยนต์ชอบอ้างรุ่นที่ดีมากกว่าเสมอ" มอนชีกล่าวต่อกับ The Guardian

"อย่าง (เฟเดริก) คานูเต ก็ไม่ใช่จุดหมายแรกของพวกเรา พวกเรากำลังพึงพอใจ เฟร็ด ของบราซิล และก็พวกเราก็อยากได้ (เควิน พรินซ์) บัวเต็ง ก่อน (เซย์มอง) เกย์ตา"

"ถ้าหากนักฟุตบอลกล่าวว่า 'เชลซีพึงพอใจผม' ผมจะกล่าวว่า 'คุณบอกผมเพื่ออะไร แล้วยังไง' แต่ว่าหาก สวอนซี หรือ สเปอร์ส พอใจคุณ พวกเรามาคุยกัน"

มันเป็นเป็นหลักการที่ทำให้ เซบียา ได้นักฟุตบอลประสิทธิภาพมาร่วมทีมในราคาที่สมควร แล้วก็เปลี่ยนเป็นสิ่งที่ทำให้เขามีผลกำไรโดยตลอดตลอดหลายปีก่อน

อย่างไรก็ตาม เทคนิคของเขามิได้มีเท่านี้.

วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2564

 บทเรียนจาก "ซง ฮึง ไม่น" ที่ชี้ให้เห็นว่า ต้องการยิ่งใหญ่ "จำเป็นต้องรู้จักปรับพฤติกรรม" part 3

ซับทุกสิ่งราวกับฟองน้ำ

ดื้อ ใช้เวลา 2 ปี ก็สามารถขึ้นชุดใหญ่ของ ฮัมบูร์ก ได้เมื่อตอนอายุเพียงแค่ 18 ปีแค่นั้น ถัดจากนี้หมายถึง"ของแท้" เขาจำเป็นที่จะต้องซึมประสบการณ์ทั้งหมดทุกอย่างที่ได้มาเพื่อต่อยอดให้กับตนเอง หนึ่งในคนดูแลที่ทำให้ แก่นแก้ว สามารถลงเล่นกลุ่มชุดใหญ่และก็เป็นผู้ที่กล้าเลี้ยง กล้าฝ่า กล้าเล่นหมายถึงรุด ฟาน นิสเตลรอย ตำนานศูนย์หน้าของเนเธอร์แลนด์ ที่ย้ายมาร่วมทีมในช่วงเกี่ยวเนื่องกันกับที่ ดื้อรั้น ขึ้นชุดใหญ่

ดื้อ เล่าว่าเขาเขินอายมากมายสำหรับการฝึกซ้อมหนแรกจนกระทั่งไม่ค่อยเป็นตัวเอง จนตราบเท่า รุด เข้ามาเป็นคนดูแล เขาได้รับข้อแนะนำและก็การผลิตความแน่ใจจาก ฟาน นิสเตลรอย เสมอ จนกระทั่งทำให้ที่สุดแล้วเขาเปลี่ยนเป็น ดื้อ ฮึง ไม่น แบบที่พวกเรารู้จักกัน โน่นหมายถึงนักฟุตบอลทวีปเอเชียที่เล่นด้วยความ "เชื่อมั่น" ที่สุดเท่าที่เคยมีมา

"รุด ฟาน นิสเตลรอย ย้ายเข้ามาตอนผมขึ้นชุดใหญ่พอดิบพอดี เขาช่วยผมไว้มากไม่น้อยเลยทีเดียวเลย การซ้อมคราวแรกของ รุด กับกลุ่ม เขาเดินเข้ามาหาผมโดยทันทีและก็บอกกับผมว่า 'ฟังนะ นายเป็นผู้เล่นที่ดีนะไอ้หนู มั่นอกมั่นใจหน่อย' ประโยคนั้นทำให้หัวใจผมพองโต เกิดกำลังใจมากยิ่งขึ้นเลยล่ะ ผมทราบว่าผมยังเด็กแต่ว่าผมก็เพียรพยายามทำความเข้าใจจากหลายสิ่งที่เขาบอกและก็สอนผมเสมอ" ซุกซน กล่าว

จากวันนั้นจนกระทั่งวันนี้ผ่านมาแทบ 10 ปีแล้ว ดื้อ ฮึง ไม่น ผ่านการเล่นให้กับ ฮัมบูร์ก, เลเวอร์คูสังเวย และก็ สเปอร์ส โดยที่ไม่มีคราวไหนที่ผลงานเสื่อมถอยเสื่อมโทรมเลย มาตรฐานของเขาสูงมากขึ้นเรื่อยซึ่งแม้จะพูดว่าเขามีพรสวรรค์ รวมทั้งถูกสอนมาให้เป็นเลิศคนมันก็สมส่วนหนึ่ง แต่ว่าสิ่งที่จำเป็นกว่าเป็น ดื้อ ฮึง ไม่นหมายถึงยอดนักปรับพฤติกรรมจริงๆ ไม่ว่าจะอยู่กับกลุ่มไหน เขาจะไหลราวกับน้ำที่อยู่ได้ในทุกภาชนะ

รวมทั้งในเวลาเดียวกันวัตถุประสงค์ในอาชีพของเขาก็ไม่เคยอยู่กับที่จริงๆเสียรู้ เมื่อก็ดีจำต้องดียิ่งขึ้นไปอีกเสมอ ซึ่งทุกคนก็มองเห็นกันอยู่ในทุกวันนี้ว่าเพราะเหตุใด ดื้อ ฮึง ไม่น ก็เลยนับว่าเป็นหนึ่งในนักฟุตบอลระดับที่ใช้คำว่า "เวิลด์คลาส" ได้เต็มปากเต็มคำโดยไม่กระอักกระอ่วนจิตใจ

ชีวิตของ ดื้อรั้น ฮึง ไม่น บอกให้พวกเราทุกคนได้รับรู้ว่าทุกการบรรลุผลไม่เคยมากล้วยๆรวมทั้งป่วยการที่จะหวังก็แค่ชะตากรรม เขาอุทิศตัวเองตั้งแต่เด็กๆเขาทำความเข้าใจ ปรับพฤติกรรม รวมทั้งตั้งความมุ่งหมายตลอดระยะเวลา แค่นั้นที่จะทำให้ท่านเป็นผู้ที่โลกเลือกจะจำ ไม่มีคำว่าสุดความสามารถ มีแต่ว่าคำว่า "ฉันจะไต่ให้สูงขึ้นยิ่งกว่านี้ได้อย่างไร ?" คำๆนี้จะก่อให้คุณเปลี่ยนเป็นผู้ที่บรรลุผลสำเร็จในชีวิต แม้ว่าจะไม่ใช่นักเตะ หรือบางทีก็อาจจะมิได้ยิ่งใหญ่สุดยอดราวกับ ดื้อรั้น ฮึง ไม่น แต่ว่าขั้นต่ำๆมันจะเป็นสิ่งที่คุณมองดูกลับมาที่มัน แล้วก็รู้สึกภูมิใจกับสิ่งที่เราเองได้บากบั่นทุ่มทุกสิ่งที่มี ...

สำหรับ แก่นแก้ว ฮึง ไม่น นั้น เมื่อเขาเป็นนักฟุตบอลระดับนานาชาติเขาย่อมคู่ควรกับค่าพลังสุดยอดเช่นเดียวกัน ในเกม FIFA Online 4 ที่พึ่งประกาศรายนาม 11 นักฟุตบอลจากทั้งโลกที่ติดกลุ่มดีเลิศหรือ 21TOTY (2021 Team of the year) หากแม้ แก่นแก้ว ฮึง ไม่น จะมิได้ติดในลิสต์นี้ แต่ทว่าเขาก็ได้รางวัลที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน

โน่นเป็นการเช็ดกโหวตให้เป็นนักฟุตบอลผู้ที่ 12 หรือผู้ที่เก่งที่สุดถ้าหากไม่นับ 11 ผู้ที่ติดกลุ่มดีเลิศของ FIFA Online 4 และก็ชื่อของ ดื้อ ฮึง ไม่น ก็ได้รับการโหวตจากผู้เล่นอย่างถล่มทลาย โดยชาติที่โหวตให้ ซุกซน ฮึง ไม่น ติด Team of the Year 2021 ผู้ที่ 12 มีทั้งยัง ไทย, เวียดนาม, จีน, รวมทั้งรกรากของเขา ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งแจ่มกระจ่างว่าเขานั้นเหมาะสมกับการเป็นนักฟุตบอลที่เยี่ยมที่สุดชั่วกับชั่วกัลป์ของทวีปเอเชียโดยแท้ ไม่ว่าจะในความป๊อปปูล่าร์ หรือในทางของฝีเท้าก็ตาม

นี่ไม่ใช่การประกาศชื่อและก็โหวตกันแบบปกติเนื่องจากว่านักฟุตบอลใครกันแน่ได้รางวัล 21TOTY พวกเขาจะได้อัพค่าพลังความรู้ความเข้าใจขึ้นไปอีกระดับ

ค่าพลังรวมของ ดื้อรั้น ฮึง ไม่น ใน FIFA Online 4หมายถึง87 เด่นสุดๆเรื่องความเร็ว, การเลี้ยงบอล รวมทั้งการจบสกอร์ กระทั่งเป็นผู้เล่นยอดฮิตไปตามกฎเกณฑ์ แต่ทว่าภายหลังที่เขาครอบครองรางวัล "นักฟุตบอลดีที่สุดผู้ที่ 12" ค่าพลังของเขาจะกระโจนไปอีกระดับ จาก เรตติ้ง 87 จะกระโจนไป 105 กล่าวได้ว่าชั่วร้ายไส้แตกระดับต้นๆของเกม มีเพียงแต่ตัวรุกอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ รวมทั้ง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี ที่มีค่าพลังมากยิ่งกว่าเขาแค่นั้น

ส่วนค่าพลังอย่างละเอียดของ ดื้อ ฮึง ไม่น เวอร์ชั่นอัพเกรดจะโหดเหี้ยมแค่ไหน และก็เมื่อลงในสนามจะจริงจะยิงระเบิดเถิดเทิงแค่ไหน จัดแจงเจอกันได้ใน FIFA Online 4 ที่จะเปิดให้เล่นแพทช์ใหม่กันในวันที่ 3 เดือนกุมภาพันธ์นี้. เทหน้าตัก