คำว่า การก่อเหตุร้าย (อังกฤษ: Terrorism) เป็นคำที่ยังไม่มีการนิยามในกฎหมายอาญาที่ส่งผลผูกมัดโดยชอบด้วยกฎหมายรวมทั้งได้รับการยินยอมรับอย่างสากล การนิยามโดยธรรมดาของการก่อเหตุร้ายนั้นหมายความว่าเพียงแค่การกระทำร้ายแรงซึ่งมีเจตนาที่จะก่อกำเนิดความหวาดกลัว ทำการเพื่อเป้าหมายทางศาสนา การบ้านการเมืองหรืออุดมการณ์อย่างใดอย่างหนึ่ง เป็นการปฏิบัติที่ตั้งใจหรือเปล่าเอาใจใส่ต่อความปลอดภัยของคนที่ไม่เกี่ยวข้อง (ข้าราชการ) รวมทั้งปฏิบัติโดยหน่วยงานที่ไม่ใช่หน่วยงานของรัฐใดๆก็ตาม
"การก่อวินาศกรรม" เป็นข้อกล่าวหาด้านการเมืองและก็อารมณ์ ซึ่งยิ่งเป็นการทำให้การนิยามที่ถูกต้องยิ่งยากขึ้นไปอีก การเรียนได้เจอการให้ความหมาย "การก่อเหตุร้าย" มากยิ่งกว่า 100 แบบ แนวความคิดของการจราจลนั้นบางทีอาจเป็นหัวข้อโต้แย้งด้วยตัวของมันเอง ด้วยเหตุว่ามันถูกใช้อย่างหลายครั้งโดยหน่วยงานของรัฐเพื่อลดความเป็นธรรมของศัตรูการบ้านการเมืองหรืออื่นๆ6 รวมทั้งมีความสามารถที่จะเพิ่มความเป็นธรรมให้แก่เมืองสำหรับในการใช้ความรุนแรงกับผู้ต้านทาน ซึ่งการใช้กำลังแบบนี้บางทีอาจถูกชี้แจงว่าเป็นการสร้าง "ความหวาดกลัว" ขึ้นโดยศัตรูการบ้านการเมืองนั้นด้วย
การก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายแรงเป็นการทำโดยหน่วยงานการบ้านการเมืองอย่างมากมายเพื่อเกื้อหนุนจุดหมายของตัวเอง ซึ่งมีการปฏิบัติงานอีกทั้งพรรคการเมืองฝั่งซ้ายและก็ฝั่งขวา กรุ๊ปชาตินิยม กรุ๊ปศาสนา กรุ๊ปปฏิรูป แล้วก็รัฐบาลซึ่งดูแล ลักษณะทั่วไปเป็นการใช้ความร้ายแรงอย่างขาดการพินิจพิเคราะห์ต่อคนที่ไม่เกี่ยวข้องเพื่อเป้าหมายสำหรับการเพิ่มความมีชื่อเสียงให้กับกรุ๊ป แนวความคิด หรือบุคคล
กฎหมายอาญา
กฎหมายอาญา เป็นข้อบังคับที่เมืองข้อกำหนดว่าการทำหรือเปล่าทำประการใดเป็นความไม่ถูกและก็มีการกำหนดโทษที่จะลงทัณฑ์แก่ผู้ที่ทำความผิด โดยมีความประสงค์ที่จะรักษาความเรียบร้อยในสังคม กฎหมายอาญาก็เลยมีความหมายต่อชีวิตประจำวันเพื่อช่วยทำให้ดำเนินชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างสุขสบาย
พฤติกรรมแล้วมีความผิด ดังเช่น รังแกคนอื่น ทำลายหรือลักขโมยของ
ความประพฤติแล้วเป็นความไม่ถูก เป็นต้นว่า การไม่ควบคุมสัตว์เลี้ยงที่ดุร้าย ไม่ให้ความสนใจกระทั่งไปรังแกแก่ร่างกายหรือเงินของคนอื่นๆ
ลักษณะการทำในสิ่งที่ผิดทางอาญา
มี 3 ลักษณะดังต่อไปนี้
1 ความประพฤติความผิดพลาดโดยจงใจ เป็นความประพฤติปฏิบัติ ที่ผู้ทำตั้งมั่น เจตนาหรือตั้งใจ โดยมีจิตสำนึก สำหรับในการทำ
2 พฤติกรรมความผิดพลาดโดยประมาท มิได้เป็นการทำโดยตั้งใจ แต่ว่าเป็นการทำโดยปราศจากความ รอบคอบ ตามความเหมาะสมเท่าที่ผู้ทำควรจะมี
3 พฤติกรรมโดยไม่ได้เจตนา เป็นการปฏิบัติ ที่ผู้ที่ทำไม่ติดอะทุ่งนา แต่ว่าผู้ที่ทำจะต้องสารภาพ เนื่องจากมีข้อบังคับกำหนดให้จำเป็นต้องยอมรับผิด ซึ่งมีกำหนดไว้ในกฎหมายอาญา
โทษทางอาญาเป็นภาวะบังคับของกฎหมายอาญา ซึ่งได้กำหนดโทษสำหรับผู้ที่กระทำความผิดไว้ ๕ ประการ ตามลำดับโทษแบบงี้
1 ประหารหมายถึงการลงทัณฑ์ผู้ทำผิดโดยการฉีดยา หรือใช้พิษให้ตาย
2ติดคุกหมายถึงการลงอาญาผู้ที่ทำความผิดทางอาญาตามคำวินิจฉัย ของสารโดยนำเพศผู้ทำไม่ดีไปขังไว้ที่คุก ตามช่วงเวลาที่ศาลวินิจฉัย มี๒ชนิดเป็น โทษจำเรือนจำชั่วชีวิตแล้วก็โทษจำตารางที่มีตั้งเวลา
3 จองจำเป็นการนำเพศผู้ทำความผิดทางอาญาไปจองจำไว้ภายในสถานที่ซึ่งกำหนดไว้ที่ไม่ใช่คุก เป็นต้นว่า โรงพัก หรือสถานที่ที่ศาลเห็นควร laobet
4 ปรับ เป็นการบังคับเงิน ของผู้ที่ทำความผิดและก็ถูกทำโทษปรับตามคำตัดสินของศาล โดย ใคร่ครวญจากความ รุนแรงของพฤติกรรมความผิดพลาด
5 ยึด/ ยึดทรัพย์สินเป็นการบังคับเงินที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้เพื่อสำหรับในการทำความผิด ซึ่งคนไหนมี สิ่งที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายไว้ครองนับได้ว่าเป็นข้อผิดพลาดเป็นต้นว่า สิ่งเสพติด เครื่องมือสำหรับในการเล่นการเดิมพัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น