วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2563

รวมความกล้าหาญสุดระห่ำที่ทำให้ ดิเอเก๋ มาราโดน่า เป็น "ตำนาน" part 1



ไม่ใช่แค่มือพระผู้เป็นเจ้าเพียงแค่นั้นที่ ดิเอโก้เก๋ มาราโดน่า ผู้เสียชีวิตได้สร้างตำนานอันลือลั่นไว้ให้โลกใบนี้ คนอย่าง มาราโดน่า มีชีวิตที่จัดจ้าเต็มที่ และก็โน่นทำให้มีสตอปรี่จำนวนมากอีกทั้งในรวมทั้งนอกสนามให้กล่าวขานแบบไม่สิ้นสุด

แล้วก็นี่เป็นส่วนใดส่วนหนึ่งของความกล้าหาญระดับตำนาน ที่ดีบ้าง-ไม่ดีบ้าง ตามแบบฉบับของ มาราโดน่า มนุษย์ที่เอ่ยคำว่า "ผมไม่เป็นสีเทา ... ไม่ขาวก็ดำไปเลย"

เล่นบอลโลก ... แต่ว่าไม่จบ

ในบอลโลกปี 1994 มาราโดน่า อายุ 33 ปีแล้ว แล้วก็เขายังเป็นตัวความมุ่งมาดของ อาร์เจนตำหนิน่า เหมือนเช่นเคย เขาสวมปลอกใส่แขนกัปตันรวมทั้งยิง 1 ลูกในเกมที่ชนะ กรีซ ภายหลังทำประตูนั้น มาราโดน่า วิ่งเข้าพบกล้องถ่ายรูปถ่ายทอดสดแล้วก็ทำสีหน้าท่าทางสาแก่ใจสุดชีวิตเหมือนกับรู้สึกตัวว่านี่เป็นประตูในที่สุดในชื่อกลุ่มชาติของเขา

ภายหลังที่ทำประตูนั้นก็มีการตรวจโด๊ปของนักฟุตบอลทั้งยัง 2 กลุ่ม และก็ มาราโดน่า ที่อยู่ในตอนคาบกันกับข่าวสารการตำหนิดโคเคนขนาดหนัก ก็ถูกพบว่ามียาเสพติดภายในร่างกาย ทำให้เขาโดนตัดสิทธิ์ในบอลโลกคราวนั้น รวมทั้งส่งตัวกลับไปอยู่บ้านก่อนถึงเวลาอันควรจะ

หลังจากโดนส่งตัวกลับไปอยู่ที่บ้าน มาราโดน่า เล่าว่าสารที่เจอภายในร่างกายของเขาไม่ใช่สิ่งเสพติด แม้กระนั้นเป็นเครื่องดื่มเสริมพลังงานแบรนด์ Rip Fuel เวอร์ชั่นอเมริกาที่ผสมสารต้องห้ามสำหรับเพื่อการแข่ง

จะใช่หรือไม่ก็ไม่รู้ได้ ด้วยเหตุว่าไม่มีการตรวจขยายผลต่อไป ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นเป็น อาร์เจนว่ากล่าวน่า จำต้องไม่เข้ารอบ 16 กลุ่มในที่สุดด้วยการแพ้ให้กับ โรมาเนีย ในขณะที่ มาราโดน่า ก็ไม่เคยได้กลับมาติดกลุ่มชาติ อาร์เจนตำหนิน่า อีกเลย เทหน้าตัก


ตามอยู่ได้ ประเดี๋ยวบิดายิงให้ !

ข้างหลังโดนขับออกมาจากกลุ่มชุดบอลโลก 1994 ที่กำลังจะเป็นบอลโลกหนสุดท้ายของเขาได้วันเดียว ผู้สื่อข่าวทั่วอาร์เจนติเตียนน่าก็ตามหาตัว มาราโดน่า กันเกือบจะพลิกแผ่นดิน ด้วยเหตุว่าต้องการจะได้ยินข่าวจากปากของเขา อย่างว่า สิ่งที่เขากล่าวนั้นขายได้เสมอ

ผู้รายงานข่าวเรียกตัว มาราโดน่า ที่อยู่ในกรุงบัวโนสไอเรสจนกระทั่งพบ แต่ว่าภาวะของเขานั้นมิได้อยู่ห้วงอารมณ์ที่ต้องการจะตอบปัญหาซอกแซกมากนัก มาราโดน่า บางครั้งก็อาจจะกำลังเมา หรือกำลังเสียใจอยู่ไม่มีผู้ใดทราบ แม้กระนั้นที่แน่นอนภายหลังที่ผู้สื่อข่าวติดตามเขาได้ครู่หนึ่ง เขาตกลงใจชูปืนไรเฟิลขึ้นมา !

"ออกไปนะโว้ย ถ้าเกิดตามมาอีก เราจะยิงพวกเอ็งจริงๆด้วย" มาราโดน่า ว่าไว้จากคำกล่าวอ้างของผู้อยู่ในเหตุการณ์

ผู้รายงานข่าวไม่ทันได้ตอบอะไร มาราโดน่า ก็โชว์ว่าเขามิได้เพียงแค่ข่มขู่ เขายิงปืนใส่ผู้สื่อข่าว 4 ผู้ที่เข้าเพียรพยายามจะเข้ามาสัมภาษณ์ ... เขายิงจริง แต่ว่าดีที่ว่าปืนที่เขายิงนั้นเป็นเพียงแค่ปืนอัดลมเพียงแค่นั้น ผู้รายงานข่าวก็เลยเพียงแค่เจ็บตัวบางส่วนเพียงแค่นั้น

แม้กระนั้นมีการแจ้งเหตุจับ มาราโดน่า ต่อจากนั้น รวมทั้งเรื่องดังที่กล่าวถึงมาแล้วก็ทำให้เขาจะต้องติดตะรางถึง 2 ปี 10 เดือนอย่างยิ่งจริงๆ แล้วก็นี่เป็นจุดเริ่มของชีวิตข้างหลังห้อยสตั๊ดอันวุ่นวายของเขา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น